ซอสชิมิชูรี (Chimichurri) เป็นซอสที่มาจากประเทศอาร์เจนตินา โดยส่วนใหญ่จะทำจากสมุนไพรสดๆ เช่น พาสลีย์ หรือ ผักชี, กระเทียม, ออริกาโน, น้ำส้มสายชูไวน์แดง และน้ำมันมะกอก มักใช้เป็นเครื่องเคียงกับสเต็กหรือเนื้อย่าง โดยซอสนี้มีรสชาติที่สดชื่น เปรี้ยว หวาน เผ็ดเล็กน้อย และกลิ่นหอมจากสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อได้อย่างยอดเยี่ยม

ทำไมซอสชิมิชูรีถึงเหมาะสำหรับทานกับสเต็ก?
1. รสชาติที่สดชื่นและเปรี้ยว: ซอสชิมิชูรีมีรสเปรี้ยวจากน้ำส้มสายชูไวน์แดง ซึ่งช่วยตัดรสชาติความมันและความหนักของเนื้อสเต็กได้ดี ทำให้ทุกคำที่ทานรู้สึกสดชื่นและไม่เลี่ยน
2. รสเผ็ดจากพริกป่น: ซอสนี้มักมีการใส่พริกป่นเล็กน้อย ทำให้มีรสเผ็ดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งช่วยเสริมรสชาติให้กับสเต็กได้อย่างกลมกล่อม
3. กลิ่นหอมจากสมุนไพร: ผักชี, พาสลีย์และออริกาโนที่ใช้ในซอสช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติสดชื่น ทำให้ซอสนี้มีความเข้มข้นและสดใหม่ที่ช่วยเติมเต็มรสชาติของเนื้อได้อย่างดีเยี่ยม
4. ความเป็นธรรมชาติและสดใหม่: ซอสชิมิชูรีทำจากส่วนผสมที่สดใหม่และมีรสชาติที่ไม่หนักเกินไป ทำให้มันเป็นซอสที่ใช้ได้กับหลากหลายเมนู โดยเฉพาะสเต็กที่ต้องการซอสที่ไม่บดบังรสชาติของเนื้อเกินไป
ซอสชิมิชูรีจึงถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการเสิร์ฟกับสเต็ก เพราะมันเพิ่มมิติรสชาติที่หลากหลายและทำให้การทานสเต็กเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความอร่อยและสดชื่น

ส่วนผสมสำหรับซอสชิมิชูรี:
ใบผักชีสด หรือ ใบพาสลีย์สด 1 ถ้วย (หั่นละเอียด)
กระเทียม 3-4 กลีบ (สับละเอียด)
น้ำส้มสายชูไวน์แดง (red wine vinegar) 2 ช้อนโต๊ะ
ออริกาโนแห้ง 1 ช้อนชา (หรือ ออริกาโนสด 1 ช้อนโต๊ะถ้ามี)
พริกป่น 1/2 ช้อนชา (ปรับตามความชอบ)
น้ำมันมะกอก extra virgin 1/2 ถ้วย
น้ำมะนาวสด 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าต้องการรสชาติเปรี้ยวเพิ่ม)
เกลือและพริกไทย (ปรับรสตามชอบ)
วิธีทำซอสชิมิชูรี:
1. หั่นสมุนไพร: เริ่มต้นด้วยการหั่นใบผักชีสด หรือ ใบพาสลีย์สด และออริกาโน (ถ้าใช้แบบสด) ให้ละเอียดที่สุด เท่าที่จะทำได้ ยิ่งหั่นละเอียดก็จะยิ่งทำให้ซอสมีเนื้อสัมผัสที่ดียิ่งขึ้น ใบพาสลีย์สดคือส่วนสำคัญของซอสนี้ ดังนั้นควรหั่นให้ละเอียดเพื่อให้รสชาติออกมาได้ดีที่สุด
2. สับกระเทียม: กระเทียมเป็นส่วนสำคัญในซอสชิมิชูรี สับกระเทียมให้ละเอียดที่สุด หรือสามารถใช้ที่บีบกระเทียมเพื่อให้ได้เนื้อซอสที่เรียบเนียน
3. รวมส่วนผสมแห้ง: ใส่ใบพาสลีย์ ใบผักชีหั่นละเอียด, กระเทียมสับ, ออริกาโนแห้ง, และพริกป่นลงในชามผสมขนาดกลาง ส่วนผสมเหล่านี้จะเป็นฐานของซอส
4. เติมส่วนผสมที่เป็นของเหลว: เทน้ำส้มสายชูไวน์แดงและน้ำมันมะกอกลงไป คุณสามารถปรับปริมาณน้ำมันมะกอกตามความชอบ หากต้องการให้ซอสข้นหรือบาง เริ่มจากครึ่งถ้วย แล้วค่อยๆเพิ่มมากขึ้นถ้าต้องการซอสที่มีความเหลวขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใส่น้ำมะนาวสดได้ ถ้าต้องการเพิ่มความเปรี้ยว
5. ปรุงรส: ใส่เกลือและพริกไทยลงไปตามรสชาติแล้วคนให้เข้ากัน ผสมจนสมุนไพรทุกตัวเคลือบด้วยน้ำมันและน้ำส้มสายชูดีแล้ว ชิมซอสแล้วปรับรสชาติตามที่ต้องการ หากชอบรสเผ็ดก็สามารถเพิ่มพริกป่นหรือกระเทียมได้ตามต้องการ
6. พักซอส: ทิ้งซอสไว้ที่อุณหภูมิห้องอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อให้รสชาติผสมผสานกัน หากทำล่วงหน้า คุณสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน แต่อย่าลืมนำออกมาตั้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนเสิร์ฟ

วิธีเสิร์ฟซอสชิมิชูรีกับสเต็ก:
ย่างหรือทอดสเต็ก: ซอสชิมิชูรีจะเหมาะมากกับสเต็กที่ย่างหรือทอด เช่น สเต็กริบอาย สันนอก สันใน ปรุงรสสเต็กด้วยเกลือและพริกไทย จากนั้นทำการย่างหรือทอดจนได้ระดับความสุกตามต้องการ (สามารถใช้ Meat Thermometer เพื่อช่วยให้ได้ความสุกตามต้องการอย่างแม่นยำ)
พักสเต็ก: หลังจากที่สเต็กสุกแล้วให้พักสเต็กไว้อย่างน้อย 5 นาที การพักจะช่วยให้เลือดในเนื้อสเต็กกระจายและทำให้เนื้อนุ่มขึ้น
เสิร์ฟพร้อมซอสชิมิชูรี: เมื่อสเต็กพักเสร็จแล้ว ให้ราดซอสชิมิชูรีลงไปบนสเต็ก ซอสควรราดลงไปให้เต็มที่เพื่อให้รสชาติสดใหม่เพิ่มขึ้น
ตกแต่ง: สามารถตกแต่งด้วยผักชี หรือ พาสลีย์สดเพิ่ม หรือใส่มะนาวหั่นเป็นชิ้นเสิร์ฟข้างๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น
เคล็ดลับ:
1. ปรับความเผ็ด: หากชอบซอสชิมิชูรีที่เผ็ด สามารถเพิ่มพริกป่นหรือใส่พริกสดหั่นฝอยลงไปได้ตามความชอบ
2. ออริกาโนสดกับแห้ง: หากใช้ผักออริกาโนสดจะให้รสชาติที่สดใสกว่า แต่ถ้าใช้แบบแห้งจะมีรสชาติที่ละเอียดและเข้มข้นมากขึ้น
3. การเก็บรักษา: ซอสชิมิชูรีสามารถเก็บในตู้เย็นได้ 2-3 วัน แต่จะอร่อยที่สุดเมื่อทำใหม่ๆ หากจะเก็บไว้ในตู้เย็น ให้เติมน้ำมันมะกอกบางๆ เคลือบบนผิวหน้า เผื่อป้องกันผักเปลี่ยนสีเป็นสีคล้ำ
ตอนนี้ ซอสชิมิชูรีกับสเต็กของคุณก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว!
ทางร้าน มีเครื่องมือที่จะช่วยให้สเต๊กของคุณอร่อยขึ้น
Kommentarer